บ้านไม้ผสมผสาน

บ้านไม้ผสมผสาน ระหว่างโมเดิร์นกับโรงนา

บ้านไม้ผสมผสาน ระหว่างโมเดิร์นกับโรงนาถ้าหากแฟชั่นจะเป็นสิ่งที่วนกลับมาซ้ำใหม่ได้เรื่อยแบบบ้านที่รู้สึกว่าหมดอายุ ไม่อินเทรนด์ ตกรุ่น ไม่ช้าก็บางทีก็อาจจะกลับมาได้รับความนิยมใหม่ได้อีก ถึงแม้เนื้อหาบางครั้งก็อาจจะไม่อย่างเดิม 100 % เพราะว่าแปลความหมายผ่านสายตาของผู้ที่ดูมาในคนละสมัยที่อาจมีมุมมองต่างไปบ้าง มีตัวตนใหม่ๆแทรกใส่ให้ตอบปัญหาชีวิตเยอะขึ้น แต่ว่าก็เป็นแรงดลใจสำหรับเพื่อการก่อสร้างบ้านที่ยังคงกลิ่นแบบบ้านphuket villa

ที่พวกเราเคยชินตา บ้านข้างหลังนี้ ในประเทศลัตเวียก็ อย่างเดียวกัน เมื่อตึกเดิมไม่เหมาะสม กับการพำนักอีกต่อไป แต่ว่าก็เป็นแรงจูงใจสำหรับในการก่อสร้างบ้านใหม่ เป็นบ้านไม้ข้างหลัง เล็กที่ล่อใจด้วย สถาปัตยกรรมเริ่มแรกเหมือนโรงนา พร้อมพื้นที่กระจกขนาดใหญ่ที่มองออกไปที่สวนที่รักษาต้นไม้ที่โตสุดกำลังเอาไว้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของบ้านด้วย

รวมบ้านโรงนากับบ้านทรงหมาแหงนทรงตึกเดิมเป็นบ้านชั้นเดี่ยวหลังคาทรงจั่วสูงไม่มีชายคาทรงโรงนาแบบตะวันตก แต่ว่าตัดทอนเนื้อหาให้เหลือ เส้นชัดแจ๋วมองล้ำสมัยขึ้น หลังคาฝาผนังไม้ห่อฯลฯ สนชนิดหน่อยของไซบีเรียที่มีคุณลักษณะทนต่อลักษณะอากาศ ผิวไม้จะมีสีเทาอ่อนเพื่อ ภาพรวมดูอย่างเป็นธรรมชาติ กับ สมุทรบอลตำหนิก และก็ฟ้าทางด้านเหนือในวันที่มีเมฆคลุ้ม บ้านสีเทามีอยู่ทั่วๆไปในรอบๆนี้คือเรื่องธรรดา โดยเฉพาะสำหรับเมืองริมฝั่งPāvilosta ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งมีกฎที่ต้องปฏิบัติการก่อสร้างที่ครัดเคร่ง ส่วนที่เพิ่มเติมข้างๆเป็นเสมือนกล่องไม้หลังคาเฉสูงแบบเพิงหมาแหงนที่ไม่ขัดแย้งกันแต่งบ้านทาวน์โฮม

นอกชานกว้างๆเป็นจุดกึ่งกลางพบปะ

ลานที่มีอยู่ 2 จุด จะปฏิบัติภารกิจอีกทั้งรวม พื้นที่ที่โล่งแจ้งรวม ทั้งตัวบ้านเข้าด้วยกัน ในเวลาเดียวกันก็เป็นตัวกึ่งกลางที่แยกระหว่างบ้านรวมทั้งสวน ส่วนที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ ข้างหลังเชื่อมต่อกับห้องรับแขก ซึ่งจะรองรับ การออกมานั่งทำกิจกรรมที่โล่งแจ้งแบบที่ถูกใจอย่างเป็น ส่วนตัวในวันที่อากาศเปิดโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การกินอาหาร ดื่มเครื่องดื่มถ้วยโปรด คบหาสมาคม งานเลี้ยงกับสหายหรือครอบครัวphuket villa ในโอกาสพิเศษ ถ้าหากอยากหลบแดดหลบฝนก็ขยับเข้าไปอยู่ใต้ร่มซุ้มระแนงไม้ที่ทำเผื่อเอาไว้

สบายเต็มไปด้วยแสงสว่างด้วยเหตุว่าลักษณะอากาศ ที่ค่อนข้างจะหนาวเย็น บ้านนี้ปรารถนาพื้นที่รับแสงสว่างออกจะมากมาย ก็เลยทำแต้มหน้า ต่างกระจกขนาดใหญ่ สม่ำเสมอจากนอกชาน เพื่อแสงสว่างธรรมชาติกระจัดกระจายเข้ามาในบ้านได้มากในช่วงฤดูหนาว ผ่านหน้าต่างทรงสูงที่หันไปทางทิศตะวันตก แล้วก็ยังมีช่องสกายไลท์เหนือครัวและก็ห้องรับแขก ทำให้พื้นที่ดำรงชีวิตส่วนนี้มองผ่องใส กว้างใหญ่แบบบ้านชั้นครึ่ง อบอุ่นกระปรี้กระเปร่า และก็ยังมีระบบระเบียบทำความร้อนใต้พื้นทั่วบ้าน ในช่วงฤดูร้อนก็สามารถเปิดประตูบ้านเปิดให้ระบายอากาศร้อนได้สุดกำลัง จากช่องเปิดในบ้านสามารถแวะดูแล้วก็มีความสัมพันธ์กับสวนผลไม้ ต้นผลแอปเปิ้ล รวมทั้งผืนต้นหญ้าที่เพิ่มความเขียวชอุ่มได้สนิทสนมขึ้น

การตกแต่งข้างในแม้ว่าจะยังคงเรียบง่าย

ด้วยโทนสีอบอุ่นของไม้เสริมด้วยสีขาวเทาและก็ดำ แม้กระนั้นก็มีโทนสีอื่นอย่าง สีฟ้า เข้ามาเพิ่มสีสันให้เยอะขึ้นกว่าด้านนอกทำให้มองสนุกขึ้น แต่ว่าจุดที่สะดุดความพอใจจะไม่พ้นเตาผิงที่มองนำสมัย หรือตู้แช่เย็นสีดำในห้องครัวที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้องมองคลาสสิคและก็ผิดตาห้องนอนตกแต่งให้มองบรรเทา แอบมีบรรยากาศของบ้านฟาร์มผ่านประตูไม้

เก่า บนพื้นแล้วก็เพดานกรุสิ่งของไม้ต่างสี เพื่อเน้นย้ำให้ส่วนที่ปรารถนาดึงดูดสายตากระจ่างขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นแนวหลังคาที่เฉสูง ทำให้มีความรู้สึกว่าห้องมองสูงโปร่งขึ้น นอนพักบันเทิงใจไม่อึดอัด ส่วนห้องอาบน้ำจะแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆเยอะที่สุดเพราะเหตุว่ามีอุปกรณ์ตกแต่งที่แสดงตัวตนแบบอุตสาหหรรมมากยิ่งขึ้น โดยย้ำคอนกรีตสีเทา ฝาผนังเหล็กรีดลอน สีท่อทองแดง และก็อุปกรณ์สีดำ ทำให้บ้านมีมากมายอารมณ์phuket villa

การผลิตบ้านแบบโรงนาสไตล์ตะวันตกที่เป็นเขตหนาวนั้น จะมีลักษณะเด่นเป็นหลังคาจั่วสูงเป็นสามเหลี่ยม ไม่มีกันสาด ไม่มีชายคา บ้านโรงนาโมเดิร์นจะปรับจากช่องแสงสว่างขนาดเล็กมาเป็นขนาดใหญ่ เพื่อรับความอบอุ่นจากแสงสว่างธรรมชาติได้มากขึ้น ซึ่งจุดแข็งพวกนี้จะเป็นจุดเสียได้ถ้าพวกเราประยุกต์ใช้ก่อสร้างบ้านเขตร้อนโดยมิได้ปรับปรับใช้ เพราะว่าจะยอมรับได้อีกทั้งแสงสว่างและก็ฝน ด้วยเหตุนี้จะต้องปรับวางแบบบ้านให้สมควร เป็นต้นว่า การเลือกใช้สิ่งของมุงหลังคาและก็ฝาผนังแบบแผ่นเรียบที่มีคุณลักษณะกันเปียกชื้นเจริญ การซ่อนรางน้ำฝน เลือกสิ่งของกระจกที่สะท้อนแสงเจริญ แล้วก็หันแนวทางรับแสงสว่างในจุดที่ไม่ได้รับแสงตลอดวัน ฯลฯ