บ้านหน้าแคบ ออกแบบตามสไตล์ผู้อาศัย
บ้านหน้าแคบ 4 ห้องนอน อยู่สบายไม่ขาดแสงสว่างช่องแสงสว่างบนหลังคา เพิ่มความสว่างให้บ้านหน้าแคบ
“มิได้ด้วยเลห์กล ก็จำเป็นต้องเอาด้วยมายากล” ประโยคดังกล่าวมาแล้วข้างต้นประยุกต์ใช้ได้กับทุกๆเรื่องราว ต่อให้เรื่องบ้านก็ไม่มีข้องดเว้น ชอบมองเห็นได้ว่ามีบ้านจำนวนมากที่มีข้อกำหนดรวมทั้งปัญหาจำนวนมากสำหรับในการก่อนสร้าง กระบวนการแก้ไขปัญหาก็เลยจำเป็นต้องพลิกแพลงอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างสถานการณ์การพำนักที่สบายสบาบแล้วก็ตรงตามใจของผู้อาศัยเยอะที่สุด บ้านหน้าแคบที่ราวกับข้างหลังนี้ก็เช่นกัน phuket villa
หากแม้พื้นที่ความกว้างจะมีไม่มาก แม้กระนั้นสามารถจัดแจงให้รู้สึกกว้างใหญ่แล้วก็แจ่มใสมากยิ่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้ได้อย่างดียิ่งแต่ก่อนบนที่ดินแปลงนี้มีบ้านข้างหลังเก่าสร้างอยู่ แต่ว่าจากอายุอานามที่ยาวนานหลายปี ความเก่าแก่ย่ำแย่ก็เลยโถมกระดังเข้ามาจนกระทั่งยื้อไม่อยู่ จำเป็นต้องก่อสร้างบ้านข้างหลังใหม่ขึ้นมา เพื่อการพักอาศัยมีคุณภาพรวมทั้งสุนทรียภาพในระดับที่พอดี คนเขียนแบบก็เลยได้กระทำดีไซน์เป็นบ้านสองรุ่นถัดมาค้างจั่ว โดยใช้ส่วนประกอบเหล็กที่มีความยืดหยุ่น รวดเร็วทันใจ ให้ทรงที่บางเบามาเป็นตัวช่วย
หลังคาทรงจั่วแหลมกับอุปกรณ์ยุคใหม่ โลหะสีเทาเข้มประยุกต์ใช้กับงานฝาผนังบ้านบนชั้นสอง เส้นตามแนวดิ่งยิ่งเพิ่มความสวยสง่าให้กับบ้านได้อย่างดียิ่ง ออกแบบข้างบนให้มีความมั่นคง ไม่เปิดมาก ไม่เหมือนกับข้างล่างที่มีความเปิดโปร่ง เนื่องจากเป็นหลักที่ส่วนรวมที่สมาชิกในครอบครัวจำเป็นจะต้องมาใช้สอยรวมกันประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมินัมสีดำเข้ม ปฏิบัติหน้าที่เชื่อมโยงด้านในกับข้างนอกเอาไว้อย่างใกล้ชิด phuket villaมีการปูพื้นระเบียงไม้ยื่นออกมาเพียงนิด
หน่อย ใช้เป็นตัวกึ่งกลางกระตุ้นให้ต้องการออกมาดำเนินชีวิตที่โล่งแจ้งมากยิ่งกว่าเดิมในบ้านตกแต่งด้วยแผนผังแบบ Open Plan ไม่อยากที่จะให้มีฝาผนังปิดทึบมากมาย เพราะเหตุว่าจะยิ่งทำให้บ้านหน้าแคบอึดอัดเพิ่มขึ้น ห้องรับประทานอาหารและก็ครัว รวมอยู่ในรอบๆเดียวกัน ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ทั้งยังไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลเรื่องกลิ่นควันของกิน สามารถเปิดประตูกว้างๆช่วยระบายให้อากาศหมุนวนอยู่เป็นประจำ
เคาน์เตอร์ห้องครัวสีขาว มีทั้งยังส่วนปรุงอาหารรวมทั้งไอซ์แลนด์
ทอปสีขาวสะอาดเชื้อเชิญให้ต้องการลงมือกระทำของกินในทุกๆมื้อ ช่วงเวลาที่เตรียมอาหารสามารถมองดูสวนนอกบ้านได้อย่างสบายตา ทะลุผ่านกระจกใส ไม่ว่าจะปิดหรือจะเปิดประตู พื้นที่ส่วนนี้ก็ยังรู้สึกได้ถึงความโปร่งกว้างตลอดระยะเวลามุมนั่งพักผ่อนเล็กๆโก้เก๋ๆถูกกันพื้นที่ไว้ด้วยชั้นวางข้างหลังไอซ์แลนด์ ใช้พื้นที่ไม่มาก ย้ำการนั่งพัก นั่งดูโทรทัศน์ร่วมกัน จับคู่สีสำหรับในการตกแต่งให้มีอารมณ์เป็นธรรมชาติด้วยสีขาวและก็น้ำตาล
ตีระแนงไม้ข้างบนตามแนวจั่ว เพิ่มเส้นให้ข้างในบ้านมีมิติและไม่เตียนกระทั่งเกินความจำเป็นหากแม้บันไดที่ใช้เชื่อมโยงกับพื้นที่ข้างบนจะมิได้มีความกว้างเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็มิได้สร้างความยากแค้นสำหรับในการดำเนินชีวิต มีการเจาะช่องแสงสว่าง SkyLight บนหลังคา ให้แสงไฟจากบนฟ้าส่องลงมาอีกทั้งช่วงกลางวันแล้วก็ช่วงเวลากลางคืนไม่เพียงแค่ช่องแสงสว่างบนหลังคาตรงบันไดแค่นั้น ทุกห้องบนชั้นสองได้ทำวางแบบให้รับแสงสว่างจากบนหลังคาได้ทั้งผอง ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนมาสเตอร์หรือห้องนอนเล็ก ข้างในห้องนอนก็เลยมองโปร่งเตียนโล่ง
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ใช้สอยมากมาย ก็พักได้อย่างสบายแล้วก็สุนทรีไม่แพ้กันช่องแสงสว่าง SkyLight บนหลังคา จำเป็นจะต้องเลือกใช้กระจกลามิเนตหรือกระจกสองชั้น เนื่องจากว่าถ้าหากมีการผิดใจ กระจกจะไม่หลุดล่วงลงมาข้างล่างให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อาศัย สามารถติดฟิล์มถ่ายรูปกันความร้อนหรือกัน UV เพื่อลดแสงสว่างไม่ให้ส่องเข้ามาด้านในภายมากจนเกินความจำเป็น เนื่องจากว่าแสงตะวันในประเทศไทยถ้าเกิดว่าไม่มีการต่อว่าดฟิล์มถ่ายรูปเพิ่มอีก อาจส่งผลให้รอบๆนั้นร้อนกระทั่งดำเนินชีวิตอยู่ได้ยาก
บ้านหน้าแคบแถมลึก แสงสว่างเพียงพอ
ลมกระจัดกระจายไปอีกทั้งข้างหลังบ้านสามชั้นหน้าแคบลึกไม่เพียงแค่เมืองไทยแค่นั้นที่ประสบพบเจอปัญหาพื้นที่สีเขียวเบาๆหายไป เนื่องด้วยการขยายตัวของเมือง ประเทศเพื่อนบ้านของพวกเราอย่างเวียดนามก็เช่นกัน เวลาที่พื้นที่ก่อสร้างบ้านก็เริ่มจำกัดจนกระทั่งจำต้องแบ่งตรอกเป็นแปลงเล็กๆออกมาเป็นที่ดินหน้าแคบลึกเสมือนญี่ปุ่นไปทุกวี่วัน ทำให้บ้านแบบใหม่แทบจะไม่มีพื้นที่เพียงพอจะใช้ประโยชน์สำหรับการจัดสวนรอบบ้าน ความแคบของที่ดินยังมีผลให้รู้สึกเสมือนถูกบีบอัดอยู่ในกล่องแคบๆการผลิตบ้านระยะหลังๆก็เลยจำเป็นต้องใส่ไอเดียเพื่อตอบทุกปัญหาปัญหาที่ว่ามานี้ เพื่อการพักอาศัยภายใต้ชายคาสบายได้ถึงแม้ในบ้านหน้าแคบลึก
Dzmoon เป็นแผนการหมู่บ้านจัดสรรวางแบบบนที่ดินหน้าแคบลึกแถบนอกเมืองดานัง ซึ่งเริ่มประสบพบเห็นได้ทั่วๆไปในประเทศเวียดนาม บ้านข้างหลังนี้ดีไซน์มาสำหรับคนรักวัยรุ่นแล้วก็ลูกๆสามคน ภายหลังอาศัยอยู่ที่อื่นๆเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับเป็นเวลาหลายปีก็ถึงเวลาที่จะมีบ้านเป็นของตนเอง โดยปัญหาสำคัญๆเป็น บ้านที่มีแดด รับลมได้ง่าย และก็สงบเงียบเพื่อใช้เวลาอยู่ที่บ้าน ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนเขียนแบบก็เลยเพียรพยายามลบความจำกัดของ
บ้านที่เปิดโอกาสว่างข้างๆมิได้
โดยการเพิ่มช่องแสงสว่างช่องลมข้างหน้า ข้างหลัง แล้วก็ด้านในแทนถ้าเกิดมองดูจากข้างๆจะมีความเห็นว่าแต่ละตอนของตึกจะขยับลึกเข้ามีราวกับรูปแบบของขั้นบันได นำมาซึ่งพื้นที่ว่างที่จะเปิดรับแสงสว่างรวมทั้งทัศนียภาพข้างหน้ามากขึ้น ในด้านล่างสุดจากรั้วหน้าบ้านเข้ามาจะเป็นที่จอดรถ และก็มุมนั่งพักผ่อนชิงชาห้อยเล็กๆซึ่งคนเขียนแบบปลูกต้นไม้แทรกรอบๆพื้น แล้วเจาะเพดานให้เป็นวงกลมโอบล้อมต้นไม้ ให้ปลายยอดสามารถเติบโตสูงมากขึ้นไปจนกระทั่งทะลุถึงชั้น 2 บ้านที่จัดพื้นที่ว่างรองรับพอดิบพอดี ทั้งคู่ชั้นก็เลยมีส่วนร่วมกับธรรมชาติได้เท่าๆกันphuket villa
ต่อจากที่จอดรถเข้ามาในตัวบ้าน จะเป็นส่วนใช้งานสาธารณะสำหรับครอบครัวที่วางแบบให้เป็นห้องรับรองๆแบบ open plan ไม่มีฝาผนังแบ่งฟังก์ชันใช้งาน มี พื้นที่นั่งพักผ่อน ห้องครัว แล้วก็โต๊ะรับประทานอาหาร สามารถดูทะลุจากข้างหน้ามองเห็นข้างหลัง โดยระหว่างพื้นที่คนเขียนแบบได้จัด pocket garden หรือสวนเล็กๆเอาไว้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยในทางของพื้นที่ข้างใน ไม้เป็นอุปกรณ์หลักสำหรับเพื่อการตกแต่ง เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับบ้าน
ยิ่งกว่านั้นยังย้ำการผสมสีที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเป็นกลางบริเวณบ้าน เป็นต้นว่า สีขาว สีเทาของสิ่งของตกแต่งฝาผนังแล้วก็พื้น ที่นอกเหนือจากที่จะสบายตาแล้ว บ้านสวยๆหรูๆยังช่วยลดอุณหภูมิสูงรวมทั้งควบคุมอุณหภูมิด้านในภายได้อย่างยิ่งด้วยเลย์เอาต์ของพื้นที่ศูนย์กลางบนชั้นสูงสุดแล้วก็พื้นที่สวนที่อยากแสงสว่างรวมทั้งความโปร่งสบายเตียนโล่ง คนเขียนแบบก็เลยใช้แนวทางเจาะเพดานข้างบนออกในนิดหน่อยในจังหวะที่ตรงกับช่องแสงสว่าง skylight
เพื่อทำให้แสงสว่างเดินทางก้าวหน้า ลดความมืดดำด้านในภาย
ตอนว่างที่เกิดขึ้นในบ้านนี้ยังเป็นเหตุให้การไหลเวียนของอากาศด้านในตึกก็ทำเป็นดียิ่งขึ้น รวมทั้งเกื้อหนุนการติดต่อสื่อสารแล้วก็ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้าน สามารถตอบโต้กับพื้นที่อื่นๆในบ้านได้ด้วยนักออกแบบประสมประสานส่วนประกอบของความเขียวชอุ่ม เพิ่มพื้นที่สวนให้แต่ละชั้นของบ้าน ถึงแม้มุมจัดสวนจะไม่ใหญ่แต่ว่าก็พอเพียงที่จะทำให้บ้านไม่ขาดธรรมชาติ จัดสวนหน้าบ้าน
เป็นการเชื่อมต่อที่ไม่มีรอยต่อระหว่างบ้านแล้วก็สวน นำไปสู่ความรู้สึกสงบมีชีวิตชีวาข้างในตรงไหนบ้างที่ไม่มีแสงสว่าง ตรงไหนบ้างที่ไม่มีสวน สำหรับบ้านที่ไม่มีช่องเปิดข้างๆและไม่มีที่ดินบริเวณกลับไม่ขาดสิ่งที่ว่ามา ด้วยเหตุว่าการจัดการที่ดีอีกทั้งการเปิดพื้นที่ด้านใน แบ่งแยกพื้นที่ใช้งานให้ต้นไม้ ลดปัญหาที่จะกันขวางแสงสว่าง ให้ความสว่างตามธรรมชาติได้มีวิถีทางส่องลอดเข้าไปเพิ่มความร่าเริงด้านในพื้นที่ว่างข้างหน้าของบ้านที่ลดหลั่นกันเข้ามาเสมือนขั้นบันได กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเป็นส่วนของระเบียงแล้วก็ดาดฟ้า
เมื่อมาประกอบกับประตูบ้านที่เป็นบานกระจกเปิดออกได้กว้าง จะมีผลให้การรับแสงสว่าง ทิวทัศน์ แล้วก็ลมธรรมชาติไปสู่ตัวบ้านทำเป็นดียิ่งขึ้นบ้านในเวียดนามแม้ว่าจะมีระยะร่น ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ฝาผนังบ้านด้วยกัน แม้กระนั้นก็มีข้อกำหนดที่จะต้องปิดฝาผนังข้างๆทึบทั้งคู่ด้านไม่อนุญาตให้มีช่องเปิด เมื่อมาประกอบกับทรงหน้าแคบลึกจะมีปัญหาขาดแสงสว่างตอนกึ่งกลางตึก เพราะว่าแสงสว่างจากข้างหน้าแล้วก็ข้างหลังส่องเข้าไปไม่ถึง บ้านก็เลยมืดทึบและไม่มีหนทางระบายอากาศ ที่สามารถปรับแก้ได้หลายแนวทาง เป็นต้นว่า การจัดแบบแปลนแบบ open plan เรียงฟังก์ชันใช้งานด้วยกันให้ตลอดไปแบบไม่ก่อปิดแบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อย หรืออีกแนวทางหนึ่งเป็น เจาะพื้นเพดานที่แบ่งระหว่างชั้นออกเล็กน้อย ทำเป็นพื้นที่ว่างโถงสูง เพื่ออากาศไหลเวียนเจริญ และก็กระบวนการทำช่องแสงสว่าง skylight รับแสงสว่างจากข้างบน แบ่งตึกออกเป็นสองส่วน (ครึ่งหน้ารวมทั้งช่วงหลัง) แล้วใส่สวนกั้นกึ่งกลาง ฯลฯ