บ้านทรงกล่องมินิมอล

บ้านทรงกล่องมินิมอล

การอยู่ร่วมกันไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกอย่าง รุ่นพ่อแม่ชอบคลาสสิก รุ่นลูกชอบมินิมัล ได้หลอมรวมกันเป็น บ้านโมเดิร์นสีขาวทรงกล่อง ที่มีเอกลักษณ์

ผลลัพธ์การออกแบบบ้านของ WARchitect โดย คุณวิน – ธาวิน หาญบุญเศรษฐ ที่ใช้ดีไซน์มาแก้ปัญหาของที่ดินและความแตกต่างได้อย่างน่าสนใจ จากความตั้งใจแรกเริ่มของครอบครัวที่อยากสร้างบ้านสองหลังสำหรับคุณพ่อคุณแม่ใกล้เกษียณที่ชื่นชอบสไตล์คลาสสิก

และอีกหลังแนวมินิมัลสำหรับลูกที่เริ่มเขาวัยทำงาน ด้วยขนาดที่ดินกว่า 1 ไร่ ก็น่าจะเป็นไปได้ แต่บริเวณนั้นอยู่ใกล้แนวสายไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งมีกฎหมายห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้าง และต้องมีเว้นระยะห่างจากแนวสายไฟ จึงทำให้เหลือที่ดินสำหรับสร้างบ้านไม่มากอย่างที่คิด

อีกทั้งการสร้างบ้านต่างสไตล์แบบสุดขั้วใกล้กันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี สถาปนิกจึงนำเสนอให้รวมบ้านสองหลังให้เป็นหลังเดียว และหลอมรวมสองสไตล์เข้าด้วยกันแบบมีชั้นเชิง เป็นที่มาของ บ้านโมเดิร์นสีขาวทรงกล่อง ที่ใช้รูปแบบการย่อมุมแบบคิ้วบัวของสถาปัตยกรรมคลาสสิกที่ลดทอนรายละเอียดเข้ามาผสมผสาน

บ้านโมเดิร์นสีขาว สองชั้นบนพื้นที่ 650 ตารางเมตรได้ออกแบบฟังก์ชันภายในบ้านแยกจากกันเสมือนเป็นบ้านสองหลัง แต่ยังเชื่อมโยงกันด้วยการออกแบบทางภาษาสถาปัตยกรรมให้ผสมผสานความชอบของทั้งสองรุ่น ระหว่างสไตล์คลาสสิกกับมินิมัล

โดยสถาปนิกแปลความคลาสสิกของคุณพ่อคุณแม่ด้วยการมีแพตเทิร์นคิ้วบัว ความสมดุล และหรูหรา ส่วนความมินิมัลของลูกคือ บ้านสีขาว ทรงเหลี่ยมๆ ใช้ไม้สีอ่อน และตกแต่งด้วยผ้าที่มีเท็กซ์เจอร์อย่างผ้าลินินที่ได้ฟีลคาเฟ่หรือร้านอาหารญี่ปุ่น จึงนำคาแร็กเตอร์เหล่านี้มาออกแบบองค์ประกอบ เกิดเป็นการย่อมุมของเฟรมสีขาวทั้งฝ้าและผนังให้ความรู้สึกสง่างามและเรียบง่ายไปพร้อมๆกัน ในความเรียบนิ่งของสีขาวกลับแสดงมิติของแสงเงาที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างชัดเจน บ้านเช่า แถวบางพลัด ปี 2567

เนื่องจากด้านตามยาวของบ้านหลังนี้วางขนานกับทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ซึ่งจะปะทะกับแสงแดดตลอดทั้งวัน โดยฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นฝั่งที่ติดถนน สถาปนิกจึงออกแบบให้เป็นผนังทึบทั้งหมดเสมือนว่าเป็นหลังบ้าน ให้ความรู้สึกลึกลับคล้ายกับมิวเซียม

ส่วนด้านหลังบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกจะเชื่อมต่อกับสนามหญ้าขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถสร้างสิ่งก่อสร้างได้ จึงออกแบบให้กลายเป็นหน้าบ้านแทน การใช้ภาษาทางสถาปัตยกรรมย่อมุมนี้มีผลให้ความสูงของช่องเปิดเตี้ยลง ช่วยลดการรับแสงแดดทางทิศตะวันตกมากเกินไป และสนามหญ้าหลังบ้านจึงเป็นพื้นที่กิจกรรมของครอบครัว โดยแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งปลูกไม้ผลเชิงเกษตร แล้วกั้นด้วยแนวรั้วต้นไม้แยกเป็นสัดส่วนกับพื้นที่บ้าน

คอนเซ็ปต์การตกแต่งภายในทั้งสองหลังจะแตกต่างกันเลย บ้านฝั่งคุณพ่อคุณแม่จะเน้นการทำระดับพื้นเรียบเสมอกัน พื้นที่ใช้งานหลักจะอยู่ชั้นล่างเป็นส่วนใหญ่ และออกแบบให้มีลักษณะเป็นโถงใหญ่ที่ดูเหมือนไม่สามารถเชื่อมต่อไปห้องไหนได้เลย แต่จริงๆแล้วได้ซ่อนประตูบานหมุนให้แนบเนียนไปกับผนังเพื่อให้ดูเรียบร้อย

พรางฟังก์ชันอื่นๆ ทั้งห้องนอนและห้องครัวไว้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวเมื่อมีแขกมา ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอนแขก และมุมหิ้งพระที่ขึ้นไปเป็นครั้งคราว พร้อมทำราวกันตกปูนแบบทึบที่มีราวจับมั่นคง และห้องน้ำที่มีราวจับพยุงตัว รองรับการใช้วีลแชร์ได้

ฝั่งบ้านลูกที่อยู่ในช่วงทำงานเน้นการใช้สเปซแบบเต็มที่ ด้วยแนวคิดว่าเป็นบ้านที่มีห้องเพียงห้องเดียว จึงเป็นการเชื่อมต่อที่ว่างที่หลากหลายเข้าด้วยกัน ตั้งแต่โถงรองเท้า แพนทรี่ ส่วนรับประทานอาหาร ส่วนนั่งเล่นที่ทำพื้นลดระดับเป็นหลุมลงไปให้เป็นขั้นบันไดและที่นั่ง เชื่อมต่อที่ว่างแนวตั้งด้วยบันไดที่พาดผ่านคอร์ตยาร์ด ที่ปลูกต้นหมากเม่าให้เสมือนเป็นกรอบรูปขนาดใหญ่ เมื่อขึ้นมาชั้นบนจะเป็นส่วนชั้นลอยนั่งทำงาน และส่วนห้องนอนซึ่งสามารถเปิดโล่งถึงกันได้ บ้านทรงกล่องมินิมอล

คนต่างวัยจะมีความต้องการใช้พื้นที่ใช้สอยไม่เหมือนกัน และแม้จะมีความชอบต่างสไตล์กัน ก็ออกแบบผสมผสานให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยการหาจุดกึ่งกลางที่ทุกคนยอมรับร่วมกัน จนกลายเป็นบ้านสวยที่มีเอกลักษณ์น่าประทับใจ

บ้านโมเดิร์นมินิมอล

การใช้ชีวิตของครอบครัวเล็ก ๆ บางครั้งก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า พื้นที่นั่งเล่นสบาย ๆ ในสวนที่เป็นส่วนตัว ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันใช้งานได้ง่าย ๆ มุมโปรดที่สมาชิกในบ้านสามารถเข้ามาใช้เวลาร่วมกันได้ และแวดล้อมด้วยสัตว์เลี้ยงแสนรักที่ทำให้หัวใจชุ่มชื่นทุก ๆ วัน บ้านหลังนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการสร้างมาด้วยความรู้สึกแบบที่ว่านี้ ผ่านการตีความของสถาปนิก “สตูดิโอเฉียงเหนือ” ที่ตอบโจทย์ด้วยการถอดองค์ประกอบของบ้านพักอาศัยโดยรอบแล้วนำมาจัดเรียงใหม่ตามความเรียบง่ายและไม่ยุ่งยาก ให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงอยู่ร่วมกันอย่างสุขใจในอาณาจักรเล็ก ๆ

ออกแบบ : Studio Chieng-Neur
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย

บ้านโมเดิร์นทรงกล่องเรียบง่าย

TSR3 (K’Bee House) เป็นชื่อโครงการบ้านพื้นที่ใช้สอย 135 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีบ้านพักอาศัยหนาแน่นในเขตจังหวัดนครราชสีมา และล้อมรอบไปด้วยบ้านเครือญาติแต่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าของบ้านจึงต้องการความเป็นส่วนตัว ความเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก นักออกแบบจึงนำปัจจัยเหล่านี้รวมเข้าด้วยกัน แล้วต่อยอดทำรูปลักษณ์ของสิ่งปลูกสร้างสไตล์โมเดิร์นทรงกล่องหลังคาแบน แต่ยังคงดูกลมกลืนกับบริบทบ้านพักอาศัยโดยรอบ

บ้านหลังนี้มีผู้อยู่อาศัย 2 คนประกอบด้วยคุณพ่อ ลูก และเหล่าสมาชิกสี่ขาตัวเล็ก ๆ อีก 3 ตัว พื้นที่ใช้สอยไปจนถึงการเลือกวัสดุจึงต้องคำนึงถึงการอยู่ร่วมกันได้ดีทั้งคนทั้งสัตว์เลี้ยงด้วย นอกจากนั้นยังออกแบบการวางทิศทางบ้านให้เหมาะสมตามทิศทางของแสงแดดและลมตามฤดู เพื่อให้บ้านได้รับประโยชน์จากธรรมชาติและสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ จุดเด่นด้านหน้าอยู่ที่ผนังอิฐช่องลม ซึ่งทำหน้าที่ช่วยพรางพื้นที่ใช้สอยภายในให้เป็นส่วนตัว พื้นบ้านจากโรงรถมาถึงด้านหน้าของบ้านเป็นคอนกรีตพิมพ์ลายทำให้บ้านดูเรียบร้อยไม่มีเศษดินเปรอะเปื้อนก่อนเข้าบ้าน แต่ด้านข้างมีสนามหญ้าให้ออกมาเดินเล่นและลดความกระด้างของอาคาร บ้านทรงกล่องมินิมอล

บ้านที่มีผนังกระจกล้อมสวน

พื้นที่ใช้สอยจัดเรียงจากห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ครัว และห้องนอน นักออกแบบเพิ่มความน่าสนุกโดยใส่ลูกเล่นของระดับพื้น เพื่อให้เกิดการแบ่งฟังก์ชั่นอย่างชัดเจน และจุดที่สำคัญคือทำพื้นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า (Open Space) จัดสวนกลางบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงานและนั่งเล่นสำหรับเจ้าของบ้านและน้องหมาที่สามารถเข้าออกส่วนนี้ได้ผ่านประตูกระจกบานเลื่อน 3 ด้าน ฟังก์ชั่นทั้งหมดของบ้านจึงหันหน้าเข้าหาสวน ทำให้สามารถซึมซับความสดชื่นจากพื้นที่ธรรมชาติเล็ก ๆ นี้ได้เท่า ๆ กัน บ้านเช่า แถวบางพลัด ปี 2567

ผนังอิฐก่อสลับทำให้เกิดช่องว่างทำหน้าที่เป็นเสมือนปอดที่เปิดให้ลมเข้ามาภายในตัวบ้าน และรอบบ้านยังมีผนังกระจกที่เปิดได้กว้างรับลมต่อเนื่องเข้าสู่ภายใน แม้ภายนอกจะดูปิดทึบเหมือนกล่องธรรมดา แต่ภายในกลับรู้สึกสบายไม่ทึบหรืออึดอัด เมื่อแสงลอดผ่านช่องว่างเหล่านี้จะเกิดเอฟเฟคของแสงและเงาตกกระทบในตัวบ้าน ซึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อย ๆ ตามการเดินทางของแสงในแต่ละช่วงของวัน ทำให้บ้านมีมิติน่าสนใจขึ้นแบบไม่ซับซ้อน

ภายในชวนสบายทั้งคนและน้องหมา

แนวคิดในการตกแต่งเน้นความน้อยของเฟอร์นิเจอร์ เพื่อความสบายตาและทำบ้านบ้านดูโปร่งโล่ง ในส่วนของวัสดุเลือกใช้เป็นสีธรรมชาติของวัสดุ ไม่ฉูดฉาด และเน้นเรื่องของการจัดวางวัสดุอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะพื้นบ้านที่แข็งแรงไม่เป็นรอยขีดข่วนของน้องหมาและต้องไม่ลื่น ซึ่งจะปลอดภัยต่อสมาชิกในบ้านทั้งหมด โซฟาเลือกชุดหุ้มหนังพื้นผิวเรียบ ๆ ที่ไม่กักฝุ่นและสามารถทำความสะอาดดูดเศษขนของสุนัขที่อาจจะร่วงติดโซฟาได้ง่าย

ครัวที่โปร่งสว่างและอบอุ่น

ห้องครัวและมุมทานข้าวเป็นแบบเปิดโดยผนังห้องนั่งเล่นและชั้นวางพระพุทธรูปเป็นฉากกั้น ทำให้สามารถปฏิสัมพันธ์กันได้ง่ายและการใช้งานไหลลื่นไม่ทำให้บ้านดูแคบ โซนนี้ยังคงเน้นพื้นผิวผนังสีขาว เทา น้ำตาล แทรกด้วยงานไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เติมความโปร่งและสว่างให้บ้านด้วยผนังที่ติดประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ในส่วนครัวใช้พื้นที่เพียงด้านเดียวของผนังบิลท์เป็นเคาน์เตอร์ยาวมีฟังก์ชันใช้งาน อาทิ พื้นที่เตรียมอาหาร เตาปรุงอาหาร ซิงค์ล้างเรียงกันไป เหนือซิงค์ติดตั้งช่องแสงแนวนอนที่เปิดออกระบายอากาศและรับแสงเข้ามาลดชื้นภายในครัวได้

สิ่งที่ทำให้บ้านเรียบ ๆ ง่าย ๆ นี้ดูน่าสนใจมีหลายอย่าง แม้แต่จุดเล็ก ๆ อย่างช่องแสงที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้งและแนวนอนต่างจากบ้านที่เราคุ้นตาทั่วไป อย่างเช่น ด้านข้างของบ้านที่อยู่ตรงกับห้องนั่งเล่นก่อปิดทึบเป็นส่วนตัว แต่เจาะช่องแสงแนวนอนยาวเอาไว้ ทำให้คนที่อาศัยภายในบ้านยังสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้ นอกจากนี้ในช่วงค่ำเราจะเห็น Staircase Indirect Lighting หรือไฟซ่อนบันได ที่เน้นใช้แสงตกแต่งสร้างบรรยากาศ เพิ่มจุดโฟกัสสายตา รวมไปถึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินขึ้นลงบันไดยามค่ำด้วย

ปัจจุบัน เรามักพบเห็นการตกแต่งตามสถานที่ต่างๆ อย่างร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือโรงแรม ที่มีการตกแต่งแบบมินิมอล ที่แสนเรียบง่าย เน้นความผ่อนคลายสบายตา แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์น่าดึงดูด

วันนี้ ในบ้าน จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชมอีกหนึ่งไอเดียของ บ้านทรงโมเดิร์น ที่ผสานการตกแต่งแบบมินิมอลได้อย่างลงตัว แถมยังมีบริบทของธรรมชาติรอบๆ ที่ช่วยเสริมความน่าอยู่ให้กับตัวบ้านอีกด้วยนะ

BV House เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล ผลงานการออกแบบโดย Traama Arquitetura ซึ่งได้ออกแบบบ้านหลังนี้ด้วยไอเดียบ้านทรงโมเดิร์น ตัวบ้านจึงมีลักษณะทรงกล่อง ผสานไปกับไอเดียการตกแต่งแบบมินิมอล ที่เน้นความเรียบง่าย ตั้งอยู่บนแลนด์สเคปสนามหญ้าสีเขียวและวิวภูเขา มองดูแล้วเข้ากันอย่างลงตัวจริงๆ ครับ

ปัจจุบัน เรามักพบเห็นการตกแต่งตามสถานที่ต่างๆ อย่างร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือโรงแรม ที่มีการตกแต่งแบบมินิมอล ที่แสนเรียบง่าย เน้นความผ่อนคลายสบายตา แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์น่าดึงดูด