บ้านหน้าแคบฟาซาด

บ้านหน้าแคบฟาซาด

บ้านหน้าแคบฟาซาด

บ้านหน้าแคบฟาซาด

บ้านหน้าแคบฟาซาด ด้วยราคาที่ดินที่แพงขึ้นแบบไม่มีลด เราจะเห็นแนวโน้มในอนาคตว่าต่อไปที่ดินในบ้านเราก็จะถูกซอยเป็นแปลงย่อยๆ ในลักษณะหน้าแคบลึกมากขึ้น เหมือนบ้านในญี่ปุ่นที่นำเทรนด์นี้ก่อนใคร มาถึงเวียดนามและเห็นได้บ้างแล้วในเกาหลีและอินเดีย สำหรับใครที่กำลังเป็นเจ้าของที่ดินลักษณะนี้แต่ยังไม่มีแรงบันดาลใจในการออกแบบ บ้าน H House น่าจะเป็นตัวแทนของบ้านหน้าแคบลึกให้ลองเก็บเป็นไอเดีย ในลักษณะของการออกแบบให้เกิดการโต้ตอบระหว่างชั้น  การมีส่วนร่วมกับธรรมชาติทั้งแสง ลม สวน และความยืดหยุ่นในพื้นที่อยู่อาศัย

บ้านหน้าแคบลึกที่ดูโปร่งสว่าง

บ้านหน้าแคบฟาซาด

จุดเด่นตั้งแต่หน้าบ้านต้องยกให้ฟาซาด ที่ทำจากไม้ระแนงเป็นหน้าต่างปิด-ปิดได้ จำนวน 8 บาน ช่วยสร้างภาพลวงตาว่าเป็นผนังไม้ปิดด้านหน้า ระบบประตูนี้ยังควบคุมปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น เสียง ฝุ่นละออง และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นฝนตก แดดออก ก็เลือกวิธีการทำงานให้ตอบสนองได้ตามสถานการณ์ และยังเข้ากันได้กับพื้นที่สีเขียวที่จัดอยู่บนระเบียงสองชั้นได้อย่างกลมกลืนโรงแรมกรุงเทพเปิดใหม่

H House เป็นบ้านของคู่สมรสหนุ่มสาวที่ทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ที่มีความหลงใหลในธรรมชาติและคุณค่าความดั้งเดิม บ้านนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านแบบยุคก่อนของเวียดนามตอนกลางที่จะต้องมีชานบ้านโล่งๆ ให้สมาชิกนั่งคุยกัน วัสดุและของตกแต่งจากไม้พื้นถิ่น การใช้สีพื้นแดงๆ ที่ค่อนข้างจัดจ้านตามอิทธิพลจากจีน มีป้ายบูชาบรรพบุรุษตรงทางเข้า ซึ่งรวมอยู่กับเคาน์เตอร์ครัวปูนเปลือย และหลังคาโซนห้องน้ำที่ทำเป็นบ้านจำลองมุงกระเบื้องโบราณ เหมือนมีบ้านโบราณเล็กๆ ซ้อนอยู่ในบ้านใหญ่อีกที

บ้านหน้าแคบลึกที่ดูโปร่งสว่าง

พื้นที่ภายในเป็นความต่อเนื่องตามธรรมชาติของพื้นที่ภายนอก และพยายามให้อาคารสูงเกิดความต่อเนื่อง สามารถมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้ง่าย โดยการสร้างการเดินทางเล็ก ๆ เป็นบันไดค่อยๆ ยกระดับขึ้นไป ทำให้เกิดพื้นที่ว่างโถงสูงและชั้นลอยเชื่อมต่อมิติของพื้นที่ในแนวตั้ง และยังเพื่อให้อากาศภายในไหลเวียนได้ดี มีทางให้แสงส่องสัมผัสกับบ้านในช่วงเวลาต่างๆ ของวันผ่านสกายไลท์บนหลังคา นำมาซึ่งความรู้สึกที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาที่ทำให้บ้านแตกต่างบ้านโมเดิร์นหลังคาจั่ว

การจัดเรียงชั้นต่างๆ ในลักษณะที่เป็นบ้านเล่นระดับ ทำให้เกิดพื้นที่ว่างระหว่างกันอยู่เป็นระยะ นำบรรยากาศที่ดีมาสู่กิจกรรมประจำวัน การจัดวางสวนในช่วงเปลี่ยนผ่านจากจุดหนึ่งไปอีกจุด  แสงธรรมชาติที่เดินทางจากภายนอกสู่ภายใน จากบนลงล่าง ผ่านช่องเปิดรูปแบบต่างๆ ในบ้าน ทำให้บ้านมีความรู้สึกที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน

พื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลางมีการวางแผนอย่างรอบคอบสำหรับกิจกรรมประจำวัน โดยเริ่มจากการใส่พื้นที่ลานโล่งต่อเนื่องจากประตูหน้าบ้าน เข้ามาสู่ภายในเป็นครัว โต๊ะทานข้าวและห้องสุขา ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายๆ คน  สำหรับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนกับครอบครัวจะอยู่บนชั้นลอย ถัดขึ้นไปจะมีสเต็ปบันไดเล็ก ๆ นำไปสู่โโซนใช้งานที่เป็นส่วนตัวขึ้น อาทิ ห้องทำงาน ห้องนอน ซึ่งสะดุดตากับการออกแบบประตูหน้าต่าง Arch โค้ง ที่กำลังเป็นที่นิมในบ้านโมเดิร์นมินิมอล แต่ใช้วัสดุและสีตามแบบฉบับของเวียดนามดั้งเดิม

บ้านหน้าแคบลึกที่ดูโปร่งสว่าง

ไม่ว่าจะอยู่ที่ชั้นไหน ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสได้ถึงสภาพอากาศและแสงภายนอกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในแต่ละวัน และยังไม่ขาดการติดต่อกับพื้นที่สีเขียวที่จัดอยู่ในทุก ๆ โซนของบ้านจากชั้นล่างถึงชั้นดาดฟ้า

นอกจากแสงธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวแล้ว ทีมออกแบบยังใช้สีต่างๆ เพื่อสร้างอารมณ์ที่แตกต่างกันสำหรับผู้อยู่อาศัย ตัวอย่างเช่น มุมห้องพระใช้สีแดงสดเป็นพื้นหลัง ซึ่งต่างจากเมืองไทยที่นิยมใช้สีขาวหรือสีอ่อนๆ เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ แต่ที่นี่สีแดงเป็นตัวแทนของพลังงานที่ดีและความเป็นมงคล ในขณะที่บันไดและโถงทางเดินเป็นสีเขียวอ่อนเหมือนสีหยก

ฟาซาดที่ออกแบบให้เป็นบานหน้าต่างเปิด-ปิดได้แบบบนี้ นอกจากให้ดีไซน์ที่สวยงามสร้างสุนทรียศาสตร์และเอกลักษณ์ให้งานสถาปัตยกรรมแล้ว ยังทำหน้าที่ใส่ระดับความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ในขณะที่ยังมองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามความต้องการใช้งานที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวันแล้ว พร้อมกันนี้ยังช่วยควบคุมปริมาณแสงที่จะเข้าสู่ตัวอาคาร ลดความร้อน เอื้อการใหลเวียนของอากาศมีความสมดุลด้วย

บ้านหน้าแคบลึกที่ดูโปร่งสว่าง

ฮวงจุ้ยบ้านหน้าแคบ

ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจศึกษาฮวงจุ้ยกันมากขึ้น ทั้งที่ศึกษาอย่างเอาจริงเอาจังตามสำนักสอนวิชาฮวงจุ้ยต่างๆ และศึกษาแบบงูๆปลาๆ อ่านตำราที่ขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ซึ่งเดี๋ยวนี้ดูจะหาซื้อกันได้ง่าย บางครั้งเมื่อเชิญซินแส ฮวงจุ้ยไปดูบ้านก็มักจะเถียงแบบข้างๆคูๆว่าตำราเขียนไว้อย่างนี้ ทำ ไมซินแสถึงดูต่าง

เถียงกันมากเข้าก็กลายเป็นว่าซินแสคนนั้นนอกคอกนอกครูไป เรื่องหนึ่งที่อยากหยิบมาเป็นประเด็นในตอนนี้คือ หน้าบ้านแคบหรือกว้างดี ซึ่งเถียงกันบ่อยมาก ในตำราศาสตร์ฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่า บ้านที่อยู่แล้วร่ำรวย หน้าบ้านต้องแคบ หลังบ้านต้องกว้าง บ้านแบบนี้เรียกว่าบ้านถุงเงินหรือบ้านรับทรัพย์ แต่หากบ้านหลังไหนด้านหน้ากว้าง ด้านหลังแคบ บ้านนั้น จะมีปัญหาเก็บทรัพย์ไว้ไม่อยู่ เงินทองจะรั่วไหล ในศาสตร์ฮวงจุ้ยให้สมญานามบ้านแบบนี้ว่าบ้านถ่าย เททรัพย์ คงต้องอธิบายให้ทราบเบื้องต้นถึงเหตุผลดังนี้check here

ปกติแล้วบ้านในสมัยก่อนโดยเฉพาะในประเทศจีนส่วนใหญ่หน้าบ้านมักจะแคบ ด้านหลังจะกว้าง หากมองตามภูมิประเทศแล้วไม่น่าแปลกนัก เป็นการปลูกบ้านโดยยึดหลักของภูมิประเทศเป็นสำคัญ เพราะบ้านของชาวจีนแต่ครั้งโบราณเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ด้วยกันหลายครอบครัว ดังนั้น จึงมักจะอยู่ร่วมกัน

พื้นที่ในบ้านจึงต้องแยกย่อยออกไปตามพื้นที่ใช้สอย ชาวจีนแต่ครั้งบรรพกาลไม่นิยมสร้าง บ้านให้มีสัณฐานของบ้านลึกเข้าไปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมรูปโลง แต่จะสร้างให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู คือด้านหน้าแคบ ด้านหลังกว้าง หลังบ้านเป็นที่ใช้สอยหรืออยู่อาศัย หน้าบ้านดัดแปลงเป็นร้านค้าหรือที่รับแขก

เหตุนี้หากมองให้ดีจะพบว่าเป็นเรื่องของประโยชน์ในการใช้ สอยมากกว่า คือหลังบ้านกว้างหน่อยจะได้ใช้อยู่อาศัยสำหรับลูกหลานที่ออกเรือนไปแล้ว และแม้ ว่าจะออกเรือนไปแล้วแต่ตามธรรมเนียมเจ้าสาวก็ต้องมาอยู่บ้านเจ้าบ่าว ดังนั้น เมื่อออกเรือนเพียงแค่สร้างบ้านแยกออกไปในพื้นที่ใกล้ๆบ้านเท่านั้นเอง โดยธรรมเนียมจีนแล้วไม่นิยมให้ลูกหลานแยกออกไปอยู่ไกลหูไกลตาเหมือนที่ฝรั่งปฏิบัติกัน

Author: admin