สไตล์บ้านในไทย
สไตล์บ้านในไทย ในทุกวันนี้มีโครงการบ้านเดียวเกิดขึ้นหลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะในกรุงเทพ หรือต่างจังหวัด โดยรูปแบบบ้านของแต่ละโครงการนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ซึ่งเราก็สามารถเลือกให้ตรงตามสไตล์ที่เราชอบและการใช้ชีวิตได้ หรือหากใครที่มีที่ดินเป็นของตัวเองอยู่แล้ว อยากจะสร้างบ้านสักหลัง แต่คิดไม่ออกว่าจะสร้างสไตล์ไหนดี วันนี้คบคิดมีรูปแบบบ้านแต่ละสไตล์ ซึ่งแต่ละสไตล์ที่เราเลือกมานั้นเป็นรูปแบบที่นิยมในประเทศไทยมาฝากกันค่ะคลิ๊กที่นี่
บ้านสไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
เป็นสไตล์บ้านที่รูปแบบเรียบง่าย มักออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิต ใช้วัสดุที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย เน้นการใช้สอยเป็นหลัก ในส่วนของสีนั้นจะใช้สีไปในโทนสีที่เรียบง่ายสบายตา ไม่ว่า สีขาว สีเทา หรือสีดำ เผยให้เห็นโครงสร้างและโชว์ผิวเนื้อแท้ของวัสดุ รวมถึงการใช้เส้นสายที่เรียบง่ายขององค์ประกอบต่างๆ เจาะผนังเป็นกระจกหรือกรอบบานประตูหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ดูโปร่งโล่งสบาย มีการตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ ทำให้ภาพของบ้านโดยรวมดูดีมีสไตล์
ถ้าอยากให้บ้านดูทันสมัย แต่ชอบความเรียบง่ายต้องสไตล์นี้เลย เพราะสไตล์โมเดิร์นเน้นการใช้รูปทรงที่มีเหลี่ยมมุม และสีโทนสว่างอย่างสีขาว สีเทาอ่อน สีเงินของกระจก และอาจแทรกสีดำจากโลหะ หรือสีส้มอมน้ำตาลจากผนังอิฐแดงเข้าไปโดยไมมีการปิดผิววัสดุ หรือทาสีปกปิดให้น้อยที่สุด ทำให้บ้านดูโล่ง โปร่ง สะอาดตา การตกแต่งส่วนมากจะเลือกใช้เฟอ์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบ ๆ แต่เก๋ ไม่เหมือนใคร และเน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสมกับพื้นที่
หลังคาของบ้านสไตล์โมเดิร์นนั้น จะมีความแตกต่างจากหลังคาของบ้านสไตล์อื่น ๆ เพราะเป็นหลังคาแบบเรียบ ก็คือไม่มีการปูกระเบื้องหลังคานั่นแหละครับ เพราะใช้เพดานของตัวบ้านแทนการมุงหลังคาเลย หรือบางครั้งก็ใช้เป็นหลังคาทรงเพิงหมาแหงน หลังคาเรียบ ๆ ที่ลาดต่ำไปด้านใด ด้านหนึ่ง บ้านสไตล์โมเดิร์นจึงค่อนข้างร้อน และฝนสาดได้ง่าย เพราะไม่มีหลังคามาช่วยบัง
บ้านสไตล์ร่วมสมัย (Contemporary)
ยังคงเป็นรูปแบบบ้านที่ออกแบบเรียบง่าย แต่เน้นฟังก์ชันในการใช้งาน ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า นิยมใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมที่เพิ่มลูกเล่นและดีเทลให้ไม่เรียบจนเกินไป นำเอาดีเทลของยุคสมัยหนึ่งในอดีตมาผสมผสานกับความทันสมัยของยุคปัจจุบัน เน้นโทนสีขาว ครีม และเทา นิยมใช้หลังคาทรงปั้นหยามุงด้วยกระเบื้องแบบมีรูปลอน สีเข้ม
แน่นอนว่าคำว่าสไตล์ร่วมสมัยนั้น หมายถึงว่าสไตล์นี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างสไตล์ในสมัยอดีต กับสไตล์แบบสมัยใหม่ หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือการผสมกันของ 2 สไตล์ อย่างสไตล์คลาสสิก และสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นสไตล์กลาง ๆ สอดแทรกความประณีตในการตกแต่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่าย ไม่หรูหราจนเกินไป และไม่เรียบจนเกินไป มักใช้โทนสีขาว ครีม น้ำตาล เทา และใช้การตกแต่งที่มีส่วนเว้า ส่วนโค้งมากกว่าเหลี่ยมมุม
รูปแบบของหลังคา ส่วนใหญ่เลือกใช้หลังคาทรงปั้นหยา และหลังคาทรงเรียบ เช่น บ้าน 2 ชั้น จะมีหลังคาชั้นบนเป็นทรงปั้นหยา ส่วนชั้นล่างที่ยื่นออกมาจะเป็นหลังคาทรงเรียบแบบสไตล์โมเดิร์น
บ้านสไตล์คลาสสิก (Classic Style)
เป็นรูปแบบบ้านที่มีสไตล์หรูหรา งดงาม เน้นความสง่างามของรูปทรง งานประณีต มีการดึงองค์ประกอบบางส่วนมาจากงานสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ในอดีต เน้นความสง่างามของรูปทรง ตกแต่งภายในด้วยของราคาสูง แต่งเติมผนังด้วยงานปูนปั้นนูนต่ำไล่ระดับไปจนถึงฝ้าเพดานที่มีการเล่นระดับ
บ้านแบบสไตล์ดั้งเดิม เน้นการตกแต่งที่หรูหรา อลังการ และความประณีต งดงามของรูปทรง ด้วยการจำลองประติมากรรมแบบกรีกโรมัน ของสไตล์ยุโรปตะวันตก ส่วนมากมักเป็นบ้านหลังใหญ่ คล้ายปราสาทราชวัง กว้างขวาง ดูมีฐานะ จุดเด่นคือการตกแต่งด้วยเสากลมแบบโรมัน รวมถึงรูปปูนปั้น โคมไฟระย้า และเครื่องทองเหลือง วัสดุที่ใช้ก่อโครงสร้างมักเป็นคอนกรีต เสาปูน และอิฐแดง
รูปแบบหลังคาของบ้านสไตล์คลาสสิกนั้นไม่มีรูปแบบตายตัว แต่นิยมใช้หลังคาทรงปั้นหยา ทรงมะนิลา หรือทรงโดมที่ดูหรูหรา โอ่อ่า ซึ่งแน่นอนว่าข้อเสียของบ้านสไตล์คลาสสิกนั้น ก็คือการใช้งบประมาณในการก่อสร้างค่อนข้างมากนั่นเอง
บ้านสไตล์โคโลเนียล (Colonial Style)
ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบตะวันตกผสานรวมกับวิถีชีวิตแบบไทยอย่างลงตัว เป็นสถาปัตยกรรมที่มีลักษณะสมมาตร ส่วนใหญ่มักมีลักษณะเป็นหน้าต่างบานเกล็ดที่เว้นระยะเท่ากัน และมีระเบียงบ้านพร้อมเสาต้นเล็กที่ได้รับอิทธิพลมาจากบ้านสไตล์คลาสสิค
Colonial มาจากคำว่า Colony Architecture เป็นสถาปัตยกรรมที่มาจากการเข้าไปยึดครองของตะวันตก เกิดเป็นการสร้างบ้านแบบตะวันตกผสมกับท้องถิ่นที่เป็นอาณานิคม คนไทยในสมัยอดีตมักเรียกกันว่า “ตึกฝรั่ง” นิยมก่อสร้าง และตกแต่งด้วยไม้ หรือวัสดุทดแทนไม้ฉลุลายสวยงาม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการตกแต่งสไตล์คลาสสิก
แต่มีการลดทอนความหรูหราลง ลักษณะเด่นของสไตล์นี้คือมีระเบียงกว้าง และตีผนังไม้ซ้อนทับผนังคอนกรีต แทรกด้วยเสาปูนสลักแบบโรมัน และเน้นการใช้สีโทนสว่าง เช่น สีขาว สีครีม สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน ที่ดูอ่อนโยน รูปแบบหลังคาในบ้านสไตล์โคโรเนียล มักเป็นหลังคาทรงหน้าจั่ว ทรงปั้นหยา ทรงมะนิลา หรือทรงอิสระที่เข้ากับรูปแบบบ้าน และสามารถกันแดด กันฝนได้ดี
บ้านสไตล์ไทยประยุกต์ (Thai-Oriental Style)
เป็นการนำศิลปวัฒนธรรมไทยดั้งเดิมผสมผสานกับความทันสมัยในยุคปัจจุบัน นิยมใช้หลังคารูปทรงจั่วหรือปั้นหยา มีการใส่ค้ำยัน ใช้หน้าต่างบานเกล็ด ตัวบ้านอาจเป็นปูนทั้งหลัง หรือมีการใช้ผนังก่ออิฐฉาบปูนเฉพาะชั้นล่างร่วมกับการใช้ไม้หรือวัสดุทดแทนไม้พื้นที่ชั้นล่างส่วนใหญ่จะเปิดโล่ง หรือมีประตูหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถให้อากาศถ่ายเทได้ดี มีลานนั่งเล่นกว้างขวางเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ของคนในครอบครัว
บ้านสไตล์เพวบโล (Pueblo Style)
หรืออีกชื่อหลายคนรู้จัก “บ้านดิน” นั่นเอง ได้รับอิทธิพลมาจากบ้านที่เรียบง่ายของชาวอินเดียโบราณ โดยจะใช้วัสดุจากดิน ปูนปั้น หรือปูน และไม้คานขนาดใหญ่ในการก่อสร้าง
บ้านสไตล์โรงนา (Barn Style)
แบบบ้านที่ออกแบบคล้ายโรงนา ผสานไปกับการออกบ้านด้วยสไตล์โมเดิร์นที่ผสานกันไประหว่างความเรียบง่ายของวิถีชีวิตชนบทกับความทันสมัย
บ้านสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ หรือบ้านสไตล์โรงนาของประเทศแถบตะวันตก มีที่มาคือการเปลี่ยนโรงนา ให้กลายมาเป็นที่พักอาศัย ลักษณะภายนอกเป็นบ้านทรงสูง ที่ไม่ต่างอะไรกับลักษณะของโรงนาเลย เมื่อเปลี่ยนมาเป็นบ้าน ส่วนมากจะสร้างเป็นรูปแบบชั้นครึ่ง เพื่อให้บ้านดูโล่ง วัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้างคือไม้ ประกอบกลับเหล็ก อิฐแดง
และกระจก เพื่อรับแสงจากธรรมชาติ ซึ่งการตกแต่งภายในของบ้านสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์มักตกแต่งด้วยสไตล์รัสติก และสไตล์ลอฟท์ ที่เปลือยผิววัสดุ ดูเก่า ดิบ เท่ เสมือนเป็นบ้านที่มาจากโรงนาจริง ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น แบบบ้านไร่ในชนบท หรือสไตล์โมเดิร์นที่เน้นโทนสว่าง ก็ดูอบอุ่น น่ารักไปอีกแบบ ซึ่งบ้านสไตล์นี้จะมีความคล้ายคลึงกับสไตล์ทิวดอร์เล็กน้อย
ส่วนรูปทรงหลังคานั้น จะเป็นหลังคาทรงหน้าจั่วสูง ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก บรรยากาศภายในบ้านจึงไม่ร้อนจนเกินไป นับเป็นข้อดีของบ้านสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ บ้านสไตล์น่ารัก อบอุ่น ดูอ่อนโยน เป็นอีกหนึ่งสไตล์การออกแบบที่นิมยมในต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันก็มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่นำเอาแบบบ้านแนวคอทเทจมาปรับใช้
และก่อสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศ บ้านสไตล์คอทเทจส่วนใหญ่เป็นบ้านขนาดเล็ก ชั้นเดียว สร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ อย่างไม้ แผ่นหิน เน้นสีโทนอ่อน เช่น สีครีม สีเทาอ่อน สีฟ้าอ่อน สีเหลืองอ่อน สลับกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งด้วยสีขาว และสีไม้อ่อน มีระเบียงยื่นออกมาด้านหน้า เป็นจุดที่ใช้นั่งพักผ่อน และต้อนรับแขก
บ้านสไตล์เนเชอรัล (Natural Style)
นิยมสร้างอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เช่น ป่า เขา ชายทะเล แวดล้อมไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ดอกไม้และสวนอันกว้างใหญ่ หรือทะเล จึงออกแบบให้ดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จึงมาจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน เปลือกหอย หรือใช้วัสดุที่เลียนแบบธรรมชาติ ออกแบบให้มีช่องเปิดขนาดใหญ่เพื่อเปิดรับแสงแดด ให้ธรรมชาติรอบตัวเข้ามาอยู่ภายในบ้าน
สำหรับคนรักธรรมชาติ ต้องสไตล์นี้เลย เพราะบ้านสไตล์เนเชอรัลนั้นมีความหมายตรงตัวอยู่แล้ว คือการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ก่อสร้าง หรืออีกนัยนึงก็คือการสร้างบ้านที่สามารถรับธรรมชาติได้มากที่สุด บ้านสไตล์นี้จึงมีความเป็นเอิร์ธโทน จากสีของไม้ อิฐแดง กระเบื้องดินเผา หรือวัสดุทดแทนอื่น ๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติ เช่น กระเบื้องลายหินอ่อน ไม้เทียม ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย เพราะมีดีไซน์เปิดโล่ง เป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ โดยใช้กระจกแทนผนังทึบ เพื่อรับแสงแดดจากภายนอก ดูเชื่อมต่อกับธรรมชาติ
ส่วนในด้านที่ไม่ต้องการให้มีแสงแดดส่องมากเกินไป มักใช้ไม้ระแนงมาลดทอนแสงแดดที่ส่องเข้ามา รูปแบบของหลังคาที่ใช้ นิยมใช้รูปแบบเพิงมาแหงน หรือรูปแบบผีเสื้อเรียบ ๆ เพื่อให็ดูกลมกลืนกับธรรมชาติมากที่สุด
เป็นไงบ้างคะ ชอบบ้านสไตล์ไหนกันบ้างเอ่ย??? ที่จริงรูปแบบบ้านนั้นมีมากกว่านี้นะ แต่เราเลือกมาเฉพาะที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามการเลือกรูปแบบบ้านั้นจะต้องดูสภาพภูมิอากาศของแต่ละพื้นที่ด้วยนะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาปรับปรุงใหม่ทีหลัง