ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน

ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน

ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน

ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน

ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน นับวันอากาศยิ่งร้อนขึ้นทุกปี หากเลือกต้นไม้จัดสวนที่ไม่เหมาะกับอากาศบ้านเรา เหล่าต้นไม้คงตายยกสวนแน่ ๆ มาดูกันดีกว่าว่ามี ต้นไม้จัดสวน ต้นใดบ้างที่สามารถทนแดดของเมืองร้อนได้และไม่ต้องดูแลบ่อย   อากาศบ้านเรามีแต่ร้อนกับร้อนมาก ฝนตกประปราย และลมหนาวพัดมานิดหน่อย

จะให้เอาไม้เมืองหนาวมาปลูกก็คงจะโตยากหรืออาจไม่แข็งแรงเท่า จะดีกว่าไหมหากลองหันมาดูไม้ประดับสำหรับจัดสวนเมืองร้อนหรือสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศของบ้านเรา เพราะความสวยงามของไม้เมืองร้อนก็ไม่ได้น้อยไปกว่าไม้เมืองหนาวเลยจริง ๆ ขนาดไม้ประดับก็ยังมีสีสันให้เชยชมชื่นใจ ด้วยต้นไม้จัดสวน 10 ชนิดที่เหมาะแก่การจัดสวนในบ้านเรามากที่สุด บ้านสไตล์คลาสสิก
 
1. โกสน

  โกศลเป็นไม้ประดับมงคลที่อยู่ในตระกูลเดียวกับโป๊ยเซียน ลักษณะเป็นทรงพุ่ม ใบเรียวยาว และมีสีสันแตกต่างกันออกไป คนไทยสมัยก่อนเชื่อว่าหากบ้านไหนปลูกโกสนไว้ก็เท่ากับการสร้างบุญสร้างกุศลจะส่งผลให้อยู่เย็นเป็นสุข นอกจากนี้โกสนยังช่วยดูดซับสารพิษโดยรอบได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การนำมาจัดสวนหน้าบ้านเพราะเป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัด ดูแลด้วยการรดน้ำให้เยอะ 1 ครั้งต่อวัน หมั่นเติมปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกในบริเวณโคนต้นเพียงเดือนละ 1 ครั้ง

ต้นโกสน หลายคนทราบดีว่าเป็นไม้มงคล นิยมปลูกไว้เพื่อประดับหรือใช้ตกแต่งสวนให้ดูสวยงาม ซึ่งต้นไม้ชนิดนี้มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน และขึ้นชื่อว่าเป็นไม้มงคล นอกจากจะนิยมปลูกไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ใบของโกสนยังมีสรรพคุณทางยารักษาโรคได้อีกด้วย ในขณะที่ใบอ่อนของโกสนก็สามารถนำมารับประทานหรือนำไปประกอบอาหารได้ เนื่องจากมีรสหวาน สามารถใช้ประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ชุบแป้งทอด แกง ผัด และต้มจิ้มกับน้ำพริก เป็นต้น

  • ต้นโกสน มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า “Codiaeum variegatum”
  • ชื่อสามัญของต้นโกสน คือ “Croton, Variegated Laurel, Garden Croton”
  • ต้นโกสน จัดอยู่ในวงศ์ของ  “Euphorbiaceae”
ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน


2. เฟิร์น

      หากพูดถึงไม้ประดับที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านดูเขียวขจีเหมือนป่าแล้วละก็ต้องนึกถึง เฟิร์น เป็นอันดับแรก ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลายสายพันธุ์และยังเป็นไม้มงคลยอดนิยมที่ช่วยเสริมเกียรติยศของครอบครัวได้อีกด้วย จะใส่กระถางแขวนหรือปลูกลงดินก็ควรให้อยู่ในที่ที่มีแดดรำไรและมีความชื้นสูงเล็กน้อย ดูแลด้วยการรดน้ำให้ชุ่มทุกวันแต่อย่ารดน้ำเยอะจนแฉะ จากนั้นนำซากใบไม้มาคลุมหน้าดินป้องกันความชื้นระเหย นอกจากนี้ควรละลายปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกกับน้ำรดลงไปที่โคนต้นเดือนละครั้งพร้อมกับตัดเล็มส่วนที่เน่าทิ้งไปอย่างสม่ำเสมอ
3. หมากผู้หมากเมีย

  หมากผู้หมากเมียเป็นไม้ประดับที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับสวนไม้ประดับทั่ว ๆ ไปได้ เนื่องจากเป็นพืชใบที่มีสีสันสวยงาม มีลักษณะทรงพุ่ม ใบเรียวยาว และส่งกลิ่นหอมในตอนกลางคืน หมากผู้หมากเมียปลูกง่าย ดูแลง่ายเพียงแค่ตั้งให้โดนแดดรำไร และรดน้ำแต่พอดีเพื่อป้องกันน้ำขัดในดินจนรากเน่าเสีย นอกจากนี้ควรหมั่นใส่ปุ๋ยบำรุงทุก 3 เดือน

หมากผู้หมากเมียเป็นพรรณพืชที่มีถิ่นกำเนิดบริเวณเขตร้อนของทวีปเอเชีย (น่าจะหมายถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้) แล้วมีการแพร่กระจายพันธุ์ไปยังเขตร้อนต่างๆของโลก สำหรับในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ปัจจุบันมีการผสมข้ามสายพันธุ์หมากผู้หมากเมีย จนได้สายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีลักษณะของสีและใบที่สวยงามแปลกตามากมาย เช่น พันธุ์เพชรชมพู พันธุ์เพชรเจ็ดสี , พันธุ์รัศมีเพชร เป็นต้น

พืชเขตร้อน

หมากผู้หมากเมียจัดเป็นไม้พุ่ม ลำต้นเป็นลำต้นเดี่ยว หรือ อาจแตกกอในบางสายพันธุ์ลำต้นมีลักษณะตรงและอาจมีการแตกกิ่ง สูงประมาณ 1-3 เมตร ตามลำต้นมีรอยการติดใบรอบๆลำต้น ใบออกเป็นใบเดี่ยวออกเวียนสลับรอบลำต้น เป็นรูปยาวรี ปลายใบแหลม ก้านใบยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ส่วนใบกว้าง 10-20 เซนติเมตร  ยาว 25-50 เซนติเมตร (ตามสายพันธุ์) ใบมีสีต่างๆแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ดอกเป็นแบบช่อแยกแขนง

ออกตามซอกใบ ช่อดอกยาวประมาณ 30-60 เซนติเมตร ช่อแขนงยาว 5-10 เซนติเมตร มีดอกย่อยติดช่อดอกจำนวนมาก ดอกมีสีเหลือง แดง ม่วง (ตามสายพันธุ์) ผลเป็นรูปทรงกลมแห่งสีแดง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร เปลือกหนา เมล็ดหนาเมล็ดมีสีดำใน 1 ผลมีหลายเมล็ด
4. บอนสี

          ขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งใบไม้” ขนาดนี้จะไม่นำมาเสนอก็คงเป็นไปไม่ได้ บอนสีมีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์ เป็นไม้มงคลที่จะช่วยคุ้มครองให้คนในบ้านอยู่อาศัยอย่างมีความสุขและร่มเย็น มีความสูงตั้งแต่ 0.5-1 เมตร ลักษณะใบแผ่กว้างและยาว มีสีสันและลวดลายสวยงาม ส่วนการดูแลจะต้องตั้งในทิศทางที่แดดรำไร รดน้ำมากแต่ต้องไม่แฉะจนเกินไปทั้งเช้าและเย็น เพราะต้องอาศัยความชื้นควบคุมอุณหภูมิขณะสร้างเม็ดสีจากแสงแดดไม้มงคล
5. จั๋ง

แม้จั๋งจะเป็นพืชในตระกูลปาล์มแต่ก็ถือว่าเป็นปาล์มแตกกอ ไม้ประดับที่นิยมนำมาจัดสวนและปลูกในอาคาร เพราะเป็นไม้ประดับที่ช่วยดูดซับสารพิษได้ดี จั๋งมีถิ่นกำเนิดในแถบบริเวณบ้านเราซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ จั๋งเชียงใหม่และจั๋งลาว ในบ้านเรานั้นนิยมนำจั๋งเชียงใหม่มาจัดสวนกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะสูงแค่ 5 เมตรเมื่อโตเต็มที่ นอกจากนี้ยังเลี้ยงง่ายดูแลไม่ยาก แค่ปลูกให้อยู่ในที่ที่แดดรำไร รดน้ำปานกลาง เติมปุ๋ยหมักแค่เดือนละ 1 ครั้งด้วยการละลายน้ำแล้วรดไปตรงโคนต้น แต่สำหรับคนที่ปลูกจั๋งไวในกระถางต้องเปลี่ยนกระถางให้ใหม่ทุกปีด้วยนะคะ

พืชเขตร้อน

7. สับปะรดสี

   เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์แต่งสวนเลยก็ว่าได้นะคะสำหรับ สับปะรดสี ไม้ประดับในสวนที่มีลักษณะใบให้สีสันสวยงาม ควรปลูกในกาบมะพร้าวที่ระบายน้ำและอากาศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสับปะรดสีมีรากแบบอากาศ ควรดูแลตามธรรมชาติไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเพราะจะทำให้ต้นไม่ทนทานต่อสภาพโดยรอบ แนะนำให้ปลูกไว้ในทิศทางที่แดดส่องถึงเล็กน้อยเพื่อให้ใบออกสีสันได้อย่างพอดิบพอดี รดน้ำปานกลาง ถึงแม้จะชอบความชื้นแต่ก็อย่าปล่อยให้ชื้นแฉะจนเกินไป
8. เตยหอม

 เตยหอมถือว่าเป็นไม้ประดับและสมุนไพรที่คู่ควรกับคนไทยมากที่สุด เพราะนอกจากใช้ประดับสวนให้สวยงามได้แล้ว มันยังนำมาทำอาหารและใช้เป็นสมุนไพรบำรุงร่างกายได้อีกด้วย มีลักษณะเป็นไม้ทรงพุ่ม ใบเรียวยาว มีร่องตรงกลางใบ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว วิธีการดูแลรักษาก็ไม่ซับซ้อนอะไรมากนัก แค่หมั่นกำจัดวัชพืชที่คอยแย่งสารอาหารให้หมดไป ปลูกในพื้นที่ที่มีแดดรำไร แต่หากปลูกไว้ริมน้ำก็จะดีกว่าเพราะเตยหอมชอบความชื้น พร้อมกับใส่ปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้นให้งอกงาม
9. เล็บครุฑ

          เล็บครุฑเป็นไม้ประดับที่คนนิยมนำมาปลูกประดับบ้านและสวนมากที่สุดต้นหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้ริมรั้ว ลำต้นมีลักษณะใบกลม มีรอยหยักคล้ายขนนก มีหนามคล้ายเล็บครุฑ ขอบใบสีครีม ดูแลรักษาให้ดินอยู่ในสภาพที่ระบายน้ำได้สะดวก ตั้งในทิศทางที่มีแสงแดดส่องถึงและแดดไม่จัดจนเกินไป หมั่นตัดแต่งกิ่งก้านให้สวยงามเมื่อต้นเริ่มมีขนาดใหญ่ รดน้ำให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ พรวนดินและใส่ปุ๋ยบ้างเป็นครั้งคราว

เล็บครุฑ (อังกฤษ: Polyscias) เป็นสกุลของพรรณไม้ยืนต้น ในสกุล Polyscias มีทั้งหมด 114 ชนิดมีลักษณะเป็นพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นมีผิวเปลือกสีเขียวหรือสีน้ำตาล ลำต้นเป็นข้อเล็ก ๆ ผิวเปลือกเรียบหรือมีจุดเล็ก ๆ ประอยู่ทั่วต้น ใบเป็นใบประกอบมีใบย่อยติดอยู่ที่ก้านใบประมาณ 5-7 ใบไม้มงคล

ขอบใบเป็นหยัก ใบมีสีเขียวเมื่อขยี้ใบดูจะมีกลิ่นฉุน ลักษณะของใบและขนาด ขึ้นอยู่กับชนิด พบว่า ใบเล็บครุฑบางชนิดสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้เช่น นำมาทอดเป็นทอดมัน หรือ นำมาทำเป็นผักจิ้ม กินกับน้ำพริกต่าง ๆ ได้
10. ศุภโชค
          ศุภโชค อีกหนึ่งไม้ประดับมงคลที่เชื่อกันว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะช่วยเรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมาอย่างไม่ขาดสาย เป็นไม้ยืนต้นสูงเต็มที่ประมาณ 6-8 เมตร ลักษณะใบเรียวยาวและเรียงติดกันแผ่กิ่งทรงพุ่ม ส่วนการดูแลนั้นก็ไม่ยากเพียงอย่าให้โดนแสงโดยตรง นอกนั้นก็ดูแลตามปกติทั่วไป รดน้ำปานกลาง และใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารบ้าง

“ศุภโชค” เป็นไม้ยืนขนาดกลาง รูปทรงพุ่ม มีระบบรากที่ใหญ่และลึกลงไปในดิน ลำต้นเป็นสีน้ำตาล สูงประมาณ 8-10 เมตร มีรัศมีของทรงพุ่มกว้างประมาณ 2-3 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาเป็นชั้นๆ ทำให้มีร่มเงาได้เป็นอย่างดี

พืชเขตร้อน

        เป็นไม้เขตร้อน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pachira aquotico (BOMBAC) อยู่ในวงศ์ MALVCEAE ว่ากันว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ แถบประเทศเม็กซิโก บราซิล หมู่เกาะฮาวาย ต่อมาได้แพร่กระจายพันธุ์ไปสู่เอเซีย ทั้งประเทศ0uo เกาหลี  ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศรวมถึงไทยด้วย นิยมปลูกประดับ ส่วนใหญ่จะนิยมเป็นไม้แคระถักเปียปลูกในกระถาง เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลที่สามารถเรียกเงินทองเข้ามาได้นั่นเอง

        ใบ เป็นใบประกอบออกที่ปลายยอดในแต่ละก้านจะมีใบย่อยประมาณ 5-7 ใบ รูปทรงเป็นแฉกคล้ายรูปวงกลม ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปทรงไข่ยาว ปลายใบและโคนใบแหลม แผ่นใบเรียบมีสีเขียวเข้ม ขอบใบเรียบ

            ดอก ออกเป็นช่อคล้ายพู่สีขาวอมเหลือง  ยาวประมาณ 5-8 ซม. มีเกสรอยู่ปลายหลอด มีกลีบรองสีเขียวอ่อนยาวและบิดม้วนลง ดอกมีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในตอนกลางคืน ดอกออกปีละ 3 ครั้ง จะออกดอกมากที่ราวเดือนมีนาคม-สิงหาคม

Author: admin